Docker Desktop คือเครื่องมือแบบ all-in-one ที่ช่วยให้คุณสามารถพัฒนา, รัน และจัดการ container บนระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ได้อย่างง่ายดาย โดย Docker Desktop มาพร้อมกับทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการทำงานกับ Docker รวมถึง:
- Docker Engine: ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Docker ที่ใช้ในการสร้างและรัน container
- Docker CLI (Command Line Interface): เครื่องมือสำหรับการจัดการ Docker ผ่านคำสั่งใน terminal หรือ command prompt
- Docker Compose: เครื่องมือสำหรับการจัดการ container หลายตัวพร้อมกันด้วยไฟล์
docker-compose.yml
- Docker Dashboard: อินเตอร์เฟซแบบกราฟิกที่ช่วยให้คุณสามารถดูและจัดการ container, image, network, และ volume ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้คำสั่ง
- Kubernetes (เป็นทางเลือก): สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบหรือพัฒนาแอปพลิเคชันบน Kubernetes, Docker Desktop มี Kubernetes cluster ในตัวที่สามารถเปิดใช้งานได้จากการตั้งค่า
คุณสมบัติหลักของ Docker Desktop
- การติดตั้งง่าย: Docker Desktop มีตัวติดตั้งที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งส่วนประกอบเพิ่มเติมหลายๆ ส่วนด้วยตนเอง
- การอัพเดตอัตโนมัติ: Docker Desktop จะมีการอัพเดตเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ และปรับปรุงความปลอดภัย
- การรวมกับ WSL 2 (สำหรับ Windows): Docker Desktop ใช้ WSL 2 เป็น backend สำหรับการทำงานร่วมกับ Linux container บน Windows ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การจัดการทรัพยากร: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการใช้ทรัพยากรของ Docker เช่น CPU, RAM และ Disk space ผ่านการตั้งค่าได้ตามต้องการ
- การพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชัน: Docker Desktop ช่วยให้คุณสามารถพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชันใน container ซึ่งทำให้การย้ายแอปพลิเคชันจากเครื่องพัฒนาไปยังสภาพแวดล้อมจริง (production) ทำได้ง่ายขึ้นและมีปัญหาน้อยลง
ขั้นตอนการใช้งาน Docker Desktop
ดาวน์โหลด Docker Desktop:
- ไปที่ เว็บไซต์ของ Docker แล้วดาวน์โหลด Docker Desktop สำหรับ Windows
การติดตั้ง:
- รันไฟล์ติดตั้งที่ดาวน์โหลดมา จากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฏขึ้นเพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง
- Docker Desktop จะขอให้เปิดใช้งาน WSL 2 (Windows Subsystem for Linux) หากยังไม่ได้เปิดใช้งาน ให้ทำการติดตั้ง WSL 2 ตามคำแนะนำของ Docker
เปิด Docker Desktop:
- เมื่อการติดตั้งเสร็จสิ้น คุณสามารถเปิด Docker Desktop ได้จากเมนู Start หรือจากไอคอนที่แสดงใน system tray
- Docker Desktop อาจต้องให้คุณเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Docker (คุณสามารถสมัครฟรีได้ที่เว็บไซต์ Docker)
2. การตั้งค่า WSL 2
- Docker Desktop ใช้ WSL 2 เป็น backend โดยสามารถเลือกที่จะใช้ Ubuntu หรือ distribution อื่นๆ ที่ติดตั้งผ่าน WSL ได้
- ตรวจสอบว่า WSL 2 ถูกเปิดใช้งานแล้วด้วยการเปิด Command Prompt หรือ PowerShell แล้วใช้คำสั่ง
wsl --list --verbose
เพื่อดู distribution ที่ใช้งานอยู่
3. การใช้งาน Docker Desktop
ตรวจสอบการติดตั้ง:
- เปิด Command Prompt หรือ PowerShell แล้วพิมพ์
docker version
เพื่อดูว่าการติดตั้ง Docker เสร็จสมบูรณ์หรือไม่ - ใช้คำสั่ง
docker info
เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของ Docker และสภาพแวดล้อมการทำงาน
- เปิด Command Prompt หรือ PowerShell แล้วพิมพ์
ดึงและรัน Container:
- ลองรัน container พื้นฐานโดยใช้คำสั่ง
docker run hello-world
ซึ่งจะทำการดึงภาพhello-world
จาก Docker Hub และรันใน container บนเครื่องคุณ - หากคุณต้องการรัน container ที่ใช้ร่วมกับ application อื่นๆ ให้ใช้คำสั่ง
docker pull <ชื่อภาพ>
เพื่อดึงภาพลงมาก่อน จากนั้นใช้docker run
เพื่อรัน container
- ลองรัน container พื้นฐานโดยใช้คำสั่ง
การจัดการ Container:
- คุณสามารถใช้ Docker Dashboard ที่มากับ Docker Desktop เพื่อตรวจสอบและจัดการ container, image, และ volume ต่างๆ โดยไม่ต้องใช้คำสั่งใน command line
- ใน Docker Dashboard คุณสามารถดู container ที่กำลังรันอยู่, หยุด container, และลบ container ที่ไม่ต้องการได้อย่างง่ายดาย
การใช้ Docker Compose:
- Docker Desktop รองรับ Docker Compose ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยจัดการ container หลายๆ ตัวพร้อมกัน
- สร้างไฟล์
docker-compose.yml
เพื่อกำหนดบริการที่ต้องการรัน จากนั้นใช้คำสั่งdocker-compose up
เพื่อเริ่มบริการทั้งหมดพร้อมกัน - ถ้าต้องการใช้ docker compose แบบ reset ค่าทั้งหมดให้ใช้ docker-compose up --build -d
- คุณสามารถใช้ Docker Dashboard ในการจัดการบริการที่รันจาก Docker Compose ได้เช่นกัน
4. การตั้งค่า Docker Desktop
- Resources: ใน Docker Desktop คุณสามารถกำหนดค่า resources เช่น CPU, RAM, และ Disk Space ที่ Docker สามารถใช้ได้
- WSL Integration: เลือก distribution ของ WSL ที่ต้องการใช้งานร่วมกับ Docker Desktop ผ่านเมนู Settings
- Kubernetes: Docker Desktop รองรับ Kubernetes ในตัว ซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้จากเมนู Settings เพื่อใช้ในการจัดการ container ในรูปแบบ cluster
5. การบำรุงรักษา
- การอัพเดต: Docker Desktop จะมีการอัพเดตเป็นระยะๆ ควรทำการอัพเดตเพื่อความเสถียรและความปลอดภัย
- การทำความสะอาด: ใช้คำสั่ง
docker system prune
เพื่อทำความสะอาด container, image, และ volume ที่ไม่ได้ใช้งาน
การใช้งาน Docker Desktop บน Windows จะช่วยให้คุณสามารถสร้างและจัดการ container ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับการพัฒนาและทดสอบแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น