ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ถ่ายภาพไว้เพียบ อยากเก็บไว้เฉียบ ๆ จะเอาไว้ที่ไหนดี !!!!

 

ถ่ายภาพไว้เพียบ อยากเก็บไว้เฉียบ ๆ

จะเอาไว้ที่ไหนดี !!!!






เมื่อถ่ายภาพมาแล้ว เราสามารถจัดเก็บภาพถ่ายไว้ได้ในเครื่องโทรศัพท์ หรือ SD Card ถ่ายมาเยอะมากจนหน่วยความจำในโทรศัพท์จะเต็มแล้ว ก็ใช้แอปฯ ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในแต่ละระบบของโทรศัพท์ ช่วยเก็บภาพโมเม้นท์ความทรงจำไว้ทั้งภาพถ่าย ภาพวิดีโอ  แต่ก็มีข้อจำกัดทั้งจำนวนความจุเนื้อที่จัดเก็บและค่าใช้จ่ายเมื่อเราต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บรูป หรือใช้สำรองรูปภาพ แต่เรามีวิธีเก็บภาพแบบถ่ายที่ถ่ายมาเถอะ เยอะยังไงก็เก็บหมด ไม่มีปัญหาเนื้อที่ในการจัดเก็บไม่เพียงพอ แก้ปัญหาเรื่อง ต้องมี External HDD หลายอัน หรือการใช้ Dropbox ที่ต้องจ่ายค่าเช่าพื้นที่บริการรายเดือน รายปี ต่อผู้ใช้งาน  นั่นคือ NAS

 


 NAS ย่อมาจากคำว่า Network Attached Storage คือ อุปกรณ์บันทึกข้อมูลหรือเก็บข้อมูลอีกแบบ ที่มีระบบและเทคโนโลยีเพิ่มเข้ามา ซึ่งจากเดิมอุปกรณ์เก็บข้อมูลจะมีเพียงแค่สาย USB (Universal Serial Bus) หรือ FireWire ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์โดยตรง แต่ NAS ใช้อินเตอร์เน็ต LAN หรือ WIFI ในการเชื่อมต่อ ซึ่งทำงานในรูปแบบของ On-premise Private Cloud ( คราวด์ส่วนตัว) ช่วยลดการรั่วไหลของข้อทูลจากการใช้บริการ คลาวด์สาธารณะได้  สามารถจัดเก็บข้อมูลไฟล์งานต่างๆได้ตั้งแต่ เอกสารสำคัญ ไปจนถึงรูปภาพ เพลง และวิดีโอ โดยที่ผู้ใช้งานที่ได้รับสิทธิ์เข้าถึง จะสามารถเข้าใข้งานได้ตลอดหรือที่ไหนก็ได้เพียงผ่านInternet Browser , SMB (Server Message Block) หรือ แอปผ่าน Smart Phone (Android / Ios) NAS คล้ายกับคอมพิวเตอร์ย่อส่วน มีHardware ที่คล้ายกัน เช่น มี CPU , RAM , และ HDD ที่ต้องใส่เพิ่ม โดยปกติแล้ว NAS จะเป็นเครื่องเปล่าซึ่งไม่มี HDD มาพร้อมให้ด้วย ทางลูกค้าต้องไปซื้อใส่ HDD เอง เพราะผู้ผลิตต้องการให้เราเลือกใช้  HDD,SDD  เองตามสะดวก แต่ก็อาจจะมีเพียงบางรุ่นที่มี HDD มาให้ แต่ลักษณะแบบนี้จะไม่สามารถ เพิ่ม HDD เองได้ ซึ่งเหมาะกับผู้ใช้งานที่เริ่มใช้ NAS


 


          NAS เปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง ที่มีระบบปฏิบัติการของตนเอง มีช่องสำหรับให้ผู้ใช้นำเอา ฮาร์ดดิสก์ ไดร์ฟ (HDD) หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ SDD มาเสียบได้ โดย NAS ขนาดเล็ก อาจจะรองรับ SDD ได้ 3-5 ตัว แต่ถ้าเป็น NAS ขนาดใหญ่ ก็จะสามารถติดตั้งได้มากกว่านั้น ซึ่งฮาร์ดดิสก์ทั้งหมดจะมีการทำการ RAID เพื่อเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูล แม้เราจะสามารถนำฮาร์ดไดร์ฟแบบไหนมาติดตั้งใน NAS ก็ได้ แต่ก็ควรจะเลือก ฮาร์ดดิสก์รุ่นที่ผู้ผลิตทำมาสำหรับ NAS โดยเฉพาะ เนื่องจาก NAS ต้องทำงานอยู่ตลอดเวลา 

          NAS ทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมี CPU สำหรับประมวลผลในตัวและมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง เพื่อทำหน้าที่ในการจัดเก็บไฟล์ ควบคุมการอ่าน-เขียนข้อมูล และดูแลสิทธิ์ในการเข้าถึงไฟล์ของผู้ใช้งาน   ในการเชื่อมต่อ  NAS เข้ากับระบบเครือข่ายสามารถทำได้ทั้งผ่าน สายอีเทอร์เน็ต (หรือสาย LAN) หรือ WiFi)  ได้เช่นกัน 



การติดตั้ง NAS Storage นั้นสามารถทำได้โดยง่าย แม้แต่ผู้ใช้งานสามารถทำเองได้ ด้วยขั้นตอนแบบคร่าว ๆ ดังต่อไปนี้

  1. ติดตั้ง NAS Storage และ กำหนด IP Address แบบ Static
  2. เสียบสายแลน เข้าไปที่ Router
  3. สร้างFolder ใน NAS พร้อมกำหนด User/Password
  4. เชื่อม Folder ใน PC ด้วย User/Password ที่ตั้งไว้

เพียง 4 ขั้นตอน ก็สามารถใช้งาน NAS Storage ได้แล้ว

 

 


 ประโยชน์ของ NAS

             1. ใช้ NAS ทำคลาวน์ส่วนตัว เป็นเหมือนศูนย์รวมการเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ที่เดียว เมื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ เราอยู่ที่ไหน ก็สามารถดึงไฟล์จาก NAS มาใช้งานได้ทันที

2. เป็นการรวบรวมข้อมูลไฟล์งานต่าง ๆ เก็บไว้ใน NAS ได้จำนวนมาก


 

  

3. การเรียกใช้งานข้อมูลผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านเว็บเบราว์เซอร์ หรือผ่านแอปฟรีบนมือถือและแท็ปเล็ตได้สะดวก

4. สามารถกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงและใช้งานไฟล์ การใช้งานแอปพลิเคชั่นให้ผู้ใช้งานแต่ละคนได้

5. ตั้งค่าสำรองข้อมูลได้หลายรูปแบบ พร้อมกู้คืนไฟล์หรือย้อนเวลากลับไปดึงไฟล์กลับมาได้ใหม่ได้

6. การซิงค์ไฟล์ข้อมูลจากคลาวน์สาธารณะ และสำรองไฟล์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์หรือระบบคลาวด์อื่น ๆ ไว้บน NAS ได้ ด้วยเทคโนโลยีขจัดข้อมูลซ้ำซ้อนช่วยให้ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ และแบนด์วิดท์

7. รองรับการทำงานแบบมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ ทั้งสตรีมหนัง ฟังเพลง เก็บรูปภาพและวิดีโอ รวมถึงฟุตเทจกล้องวงจรปิด พร้อมทั้งรองรับทำงานเอกสารพร้อมกันแบบเรียลไทม์

ไม่ยากถ้าอยากจะสะดวก สบาย ไปไหนไปกันกับภาพถ่ายที่บันทึกไว้อย่างไม่จำกัดการใช้งาน ลองมาเก็บความทรงจำมากมายเอาในคลังภาพโดยมี NAS เป็นตัวช่วยเก็บความทรงจำอย่างสมบูรณ์แบบ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การจองสมาร์ทรูม (Smart Room) สำนักหอสมุดกลาง

                ในยุคที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญในสายงานต่าง ๆ สำนักหอสมุดกลาง ก็ได้นำเทคโนโลยีสมาร์ทรูม (Smart Room) เข้ามาใช้ในการบริการนักศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงข้อมูลและทรัพยากรสารสนเทศต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิผลและสะดวกสบายมากขึ้น                Smart Room เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและบุคลากรในการค้นคว้า วิจัย และทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ที่ทันสมัยและสนับสนุนการใช้ทรัพยากรสารสนเทศในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น   โดยสามารถเข้าจองสมาร์ทรูม ( Smart Room) ไดัตามขั้นตอนดังต่อไปนี้                ขั้นตอนที่ 1 เข้าเว็บไซต์ของสำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ผ่านทาง https://library.kmutnb.ac.th จากนั้นเลือกเมนู จองห้องออนไลน์ ดังภาพที่ 1           ...

การใช้งาน docker Desktop บน windows

  Docker Desktop คือเครื่องมือแบบ all-in-one ที่ช่วยให้คุณสามารถพัฒนา, รัน และจัดการ container บนระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ได้อย่างง่ายดาย โดย Docker Desktop มาพร้อมกับทุกสิ่งที่คุณต้องการสำหรับการทำงานกับ Docker รวมถึง: Docker Engine : ซึ่งเป็นหัวใจหลักของ Docker ที่ใช้ในการสร้างและรัน container Docker CLI (Command Line Interface) : เครื่องมือสำหรับการจัดการ Docker ผ่านคำสั่งใน terminal หรือ command prompt Docker Compose : เครื่องมือสำหรับการจัดการ container หลายตัวพร้อมกันด้วยไฟล์ docker-compose.yml Docker Dashboard : อินเตอร์เฟซแบบกราฟิกที่ช่วยให้คุณสามารถดูและจัดการ container, image, network, และ volume ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องใช้คำสั่ง Kubernetes (เป็นทางเลือก): สำหรับผู้ที่ต้องการทดสอบหรือพัฒนาแอปพลิเคชันบน Kubernetes, Docker Desktop มี Kubernetes cluster ในตัวที่สามารถเปิดใช้งานได้จากการตั้งค่า คุณสมบัติหลักของ Docker Desktop การติดตั้งง่าย : Docker Desktop มีตัวติดตั้งที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งส่วนประกอบเพิ่มเติมหลายๆ ส่วนด้วยตนเอง การอัพเ...

ปัญหากวนใจเครื่องปริ้น ปริ้นไม่ออก และวิธีแก้ไข

  ปัญหากวนใจเครื่องปริ้น ปริ้นไม่ออก และวิธีแก้ไข เครื่องปริ้นพิมพ์ไม่ออก ปัญหาโลกแตกที่ผู้ใช้งานเครื่องพิมพ์พบเจอกันเป็นประจำ เพราะเราใช้เครื่องปริ้นในการทำงานทั้งในสำนักงาน ห้างร้านต่างๆ รวมถึงที่บ้านก็เช่นกัน ซึ่งปัญหาเครื่องปริ้นท์ใช้งานไม่ได้ เครื่องปริ้นพิมพ์ไม่ออก อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาทางฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือการติดตั้ง รวม ถึงการใช้งานที่ไม่ถูกต้องด้วย เมื่อเกิดปัญหาขึ้น จึงจำเป็นต้องหาสาเหตุให้เจอ เพื่อจะสามารถแก้ไขได้ตรงจุด บทความนี้ TechSpace ได้รวบรวมวิธีการแก้ไขปัญหาเมื่อเครื่องปริ้นไม่สามารถพิมพ์ได้ เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเองได้ 1. ปริ้นไม่ออกเนื่องจากกระดาษติด (Paper Jam) หากเครื่องปริ้นท์เตือนว่ามีกระดาษติด สิ่งที่ต้องทำคือตรวจสอบว่ากระดาษอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหรือไม่ ปกติแล้วการนำกระดาษออกจากเครื่องแล้วเรียงใหม่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ และอย่าลืมดูจำนวนกระดาษให้มีความจุที่เหมาะสมกับถาดกระดาษ เพราะถาดกระดาษของเครื่องปริ้นท์แต่ละเครื่องถูกออกแบบมาเพื่อรองรับความจุกระดาษอย่างจำกัด 2. ไดร์เวอร์เครื่องปริ้นมีปัญหา ไดร์เวอร์เ...